
จังหวัดระยองนอกจากจะเต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับพักผ่อนหย่อนใจแล้ว ใครที่มีลูกหลานยังอยู่ในวัยเรียน ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่เหมาะสำหรับจะพาเด็กๆไปเปิดโลกกว้าง เรียนรู้ สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ รับรองว่าเด็กๆ จะติดใจ



? 1. ศูนย์การเรียนรู้ป่าวังจันทร์
? 222 หมู่ 1 ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง 21210
⏱ เปิดทำการ : วันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 16.00 น.
เป็นโครงการโดยสถาบันปลูกป่าและระบบนิเวศของ ปตท. ที่ต้องการพัฒนาที่ดินใน อ.วังจันทร์ให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีชื่อว่าสถาบันวิทยสิริเมธี (VISTEC) และโรงเรียนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีชื่อว่าโรงเรียนกำเนิดวิทย์ (KVIS) ซึ่งได้รับชื่อพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมทั้งพัฒนาพื้นที่ใกล้เคียงให้เป็นพื้นที่สีเขียว ภายใต้โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติ 1 ล้านไร่ โดยมีการจัดตั้งสถาบันปลูกป่า ปตท. ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปลูกป่า ฟื้นฟูพื้นที่ป่า เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา พร้อมเผยแพร่ความรู้ ความเข้าใจด้านสิ่งแวดล้อม และการสาธิตการปลูกป่าให้แก่ประชาชนทั่วไปด้วย เพื่อการพัฒนาเมืองและป่าให้อยู่ร่วมกันได้อย่างยั่งยืนและเกื้อกูลกัน นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นพื้นที่สะสมพันธุ์ไม้ป่าหายาก พันธุ์ไม้เศรษฐกิจหลายชนิด พืชอาหารตามธรรมชาติ และแหล่งเพาะชำกล้าไม้สายพันธุ์ดีต่างๆอีกทั้งเป็นเพื้นที่แห่งแรกที่เข้าร่วมโครงการลดก๊าซเรือนกระจกตามมาตรฐานของประเทศไทย เด็กๆจะได้มาพักผ่อนหย่อนใจ และเพลิดเพลินกับการเดินชมธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ได้เรียนรู้ พร้อมปลูกจิตสำนึกความรักธรรมชาติไปพร้อมกัน




?2. สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง (Rayong Aquarium)
?เลขที่ 2 หมู่ 2 ต.เพ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง21160
⏱ เปิดทำการ : วันพุธ-ศุกร์ เวลา 10.00-16.00 น./ วันเสาร์-อาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์ 10.00-17.00 น.
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมสำหรับครอบครัว เพราะเด็กๆจะได้ตื่นตาตื่นใจกับโลกจำลองใต้ท้องทะเลตะวันออก ที่นี่เป็นแหล่งรวบรวมและจัดแสดงพันธุ์สัตว์ทะเลนานาชนิด และให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพประมงของไทย ภายในแบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนจัดแสดงพันธุ์สัตว์ทะเลมีชีวิต จะมีทั้งตู้ปลาทะเล ที่มีสัตว์น้ำเศรษฐกิจ สัตว์ทะเลหายาก สัตว์ทะเลที่มีพิษหรือเป็นอันตราย รวมทั้งบ่อแสดงระบบนิเวศน้ำตื้น ส่วนต่อมาเป็นส่วนจัดแสดงนิทรรศการด้านการประมง ซึ่งได้ให้ความรู้เกี่ยวกับอาชีพประมง เรือ เครื่องมือ ตลอดจนทรัยพยากรประมงของไทย และส่วนสุดท้ายคือพิพิธภัณฑ์เปลือกหอย ที่รวบรวมเปลือกหอยสวยงามหลากหลายพันธุ์เอาไว้ อยากให้เด็กๆได้สนุกสนานกับการเรียนรู้ พร้อมดูสัตว์น้ำในราคาไม่แพง แนะนำให้มาที่นี่เลย ค่าเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่เพียง 30 บาท เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี 10 บาท ส่วนเด็กเล็กความสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร และผู้สูงอายุเข้าชมฟรี



?3. ระยองสไมล์ แพลนท์
? ต.ตาขัน อ.บ้านค่าย จ.ระยอง 21120
⏱ เปิดทำการ : วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-18.00 น.
ที่นี่เป็นศูนย์การเรียนรู้พืชกินแมลงที่ใหญ่ที่สุดของ จ.ระยอง และติดอันดับ 1 ใน 4 ของสวนจัดแสดงและรวบรวมพันธุ์พืชกินแมลงที่ดีที่สุดในโลก ที่นี่เด็กๆจะได้ตื่นตาตื่นใจกับการชมพืชกินแมลง หรือที่รู้จักกันในชื่อต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิง กว่า 500 สายพันธุ์ ซึ่งบางส่วนก็เกิดจากการเพาะพันธุ์อย่างมีประสิทธิภาพ จนได้พันธุ์แปลกใหม่ สวยงาม กวาดรางวัลมาแล้วมากมาย ในสวนผสมพื้นที่กว่า 30 ไร่ ถือเป็นศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตร และยังมีการเพาะพันธุ์พืชกินแมลงเพื่อจำหน่ายให้แก่นักสะสมและนักวิจัยพัฒนา พร้อมส่งออกเพื่อจำหน่ายให้แก่ต่างประเทศ คุณประกิต โพธิ์ศรี เจ้าของสวนแห่งนี้ริเริ่มการทำสวนภายใต้แนวคิดเชิงอนุรักษ์ โดยนำพืชกินแมลงมาเพาะพันธุ์เพื่อจำหน่ายในราคาถูก ตัดราคาพวกลักลอบขายของป่า พร้อมทั้งขยายพันธุ์แจกให้เด็กนักเรียนและผู้ที่สนใจฟรีๆ และจุดขายของที่นี่อีกอย่าง ก็คือร้านอาหารด้านในที่ชื่อ Smile Plant Café ที่มีทั้งอาหารและเครื่องดื่มจำหน่าย (เฉพาะเสาร์-อาทิตย์) ทีเด็ดอยู่ที่การนำหม้อข้าวหม้อแกงลิงมารังสรรค์เป็นเมนูสุดแหวกแนวที่รับรองไม่เคยทานที่ไหน ที่ขึ้นชื่อก็ต้องส้มตำหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่ใส่เนื้อทุเรียนสด กับมะพร้าวอ่อน หม้อข้าวหม้อแกงลิงชุบแป้งทอด และยำหม้อข้าวหม้อแกงลิง เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ unseen ที่ต้องมาลิ้มลอง



? 4. พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง
? 162/6 หมู่ 5 ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง 21190
⏱ เวลาทำการ : วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-16.00 น.
เด็กๆ จะได้สนุกสนานกับโลกในวันวานของผู้ใหญ่ที่พิพิธภัณฑ์บ้านครูกัง ผู้ปกครองที่พาเด็กๆ มาก็จะได้ย้อนวัยไปพร้อมๆกัน เจ้าของผู้ก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือครูกัง บุญเกียรติ อดีตข้าราชการครูที่หลังจากเกษียณ ก็มีไอเดียเก๋ๆในการรีโนเวทบ้านไม้ของตัวเองบนพื้นที่เกือบ 2 ไร่ มาเป็นพิพิธภัณฑ์จัดแสดงของสะสมเก่าแก่ของตัวเองกว่า 40 ปีและได้จัดสรรพื้นที่ออกเป็นโซน และห้องต่างๆ โดยตกแต่งในบรรยากาศเก่าแก่ ย้อนยุคทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นร้านตัดผม ร้านตัดเสื้อ ร้านทอง โรงภาพยนตร์ ร้านถ่ายภาพ ร้านกาแฟ ร้านขายของชำ ห้องครัว ห้องเรียน ห้องนอน โซนจัดแสดงยานพาหนะขนาดต่างๆ เช่น รถม้า รถสองแถว รถจักรยาน รถมอเตอร์ไซค์ ห้องจัดแสดงเครื่องดนตรี ของเล่น หนังสือ ธนบัตรโบราณ เป็นต้น ค่าบริการ : ผู้ใหญ่ : 80 บาท / เด็ก 30 บาท เด็กที่เกิดหลังยุค 90 มาอาจจะไม่ทันเห็นอะไรหลายๆอย่าง เชื่อว่าพวกเขาจะได้เพลิดเพลินกับโลกอีกใบที่พวกเขาไม่เคยรู้จักในยุคนี้ ผู้ใหญ่ก็จะสนุกกับการได้ถ่ายรูปและรำลึกความหลัง




? 5. ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดง ตามพระราชดำริ
? หมู่ 3 ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง 21140
⏱ เวลาทำการ : วันจันทร์-ศุกร์ 08.30-16.30 น. โทร. 0 38010 800
ที่มาของโครงการนี้ เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ 9) ที่ทรงต้องการช่วยแก้ไขปัญหาสภาพป่าที่ถูกทำลายในพื้นที่แถบจ.ระยอง-ชลบุรี ทำให้ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ และเกษตรกรมีปัญหาด้านผลผลิต โดยพระองค์ทรงแนะนำให้จัดตั้งศูนย์กลางอาชีพเกษตรกรรมและศิลปาชีพให้แก่ราษฎรใน จ.ระยอง บริเวณริมอ่างเก็บน้ำดอกกราย อ.ปลวกแดง จ.ระยอง พื้นที่ราว 1,300 ไร่ เพราะพื้นที่ดังกล่าวสามารถส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงพื้นที่ทำกินของชาวบ้านได้ โครงการนี้มุ่งพัฒนาและปรับปรุงแหล่งน้ำ และระบบชลประทานให้ดีขึ้น พร้อมปรับปรุงพัฒนาดินและน้ำให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ และส่งเสริมให้เกษตรกรมีความรู้ พัฒนาอาชีพ และปรับปรุงผลผลิต โดยการจัดตั้งศูนย์พัฒนาการเกษตร ศูนย์ปศุสัตว์ ศูนย์ฝึกปฏิบัติด้านการประกอบอาชีพ พร้อมเปิดให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่สนใจเข้ามาดูวิถีชีวิตของชาวบ้าน และการทำการเกษตร การเลี้ยงสัตว์ การประมง โดยมีกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น การทำปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ แปลงพืชสมุนไพร แปลงพืชผักปลอดสารพิษ ชมการสาธิตการเลี้ยงสัตว์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการจัดนิทรรศการเพื่อให้ความรู้ ถือเป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่เปิดโอกาสให้เด็กๆได้เรียนรู้วิถีชีวิตเกษตรกรไทย และหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างแท้จริง
.
นี่เป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำสำหรับเด็กๆส่วนหนึ่งเท่านั้น จังหวัดระยองระยองยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแหล่งเรียนรู้อีกมากมาย ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าไปสำหรับครอบครัว และเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กๆในวัยเรียน ที่จะเปิดโลกทัศน์ และให้เด็กๆได้สัมผัสกับธรรมชาติ วิถีชีวิตของคนในสมัยก่อน ได้ลิ้มรสความแปลกใหม่ ที่พวกเขาอาจไม่เคยได้มีโอกาสเห็นจากชีวิตในเมืองกรุง ผู้ปกครองสามารถจัดทริปสั้นๆ ได้แทบทุกสัปดาห์เลยครับ